ข่าวเกี่ยวกับสัตว์

ห้ามแมวเตร็ดเตร่

แชร์ข่าวนี้ให้เพื่อน กดเลย


ห้ามแมวเตร็ดเตร่

แมวนับเป็นสัตว์เลี้ยงแสนรักที่ช่วยเติมเต็มความรู้สึกดีๆ ให้สมาชิกในครอบครัว อย่างไรก็ตาม เจ้าเหมียวแสนรักยังได้ชื่อว่าเป็นนักล่าที่ร้ายกาจ ภายใต้ร่างปุกปุยและใบหน้าที่น่ารักน่าเอ็นดู

แมวนับเป็นสัตว์เลี้ยงแสนรักที่ช่วยเติมเต็มความรู้สึกดีๆ ให้สมาชิกในครอบครัว อย่างไรก็ตาม เจ้าเหมียวแสนรักยังได้ชื่อว่าเป็นนักล่าที่ร้ายกาจ ภายใต้ร่างปุกปุยและใบหน้าที่น่ารักน่าเอ็นดู

เมื่อสัปดาห์ก่อนประชาชนที่อาศัยอยู่ในทางตอนใต้ของเมืองวอลล์ดอร์ฟ ในเขตไรน์-เน็คคาร์ ของรัฐบาเดิน-เวิร์ทเทมแบร์ก ทางตะวันตกเฉียงใต้ของเยอรมนี ได้รับคำสั่งจากทางการห้ามนำสัตว์เลี้ยงแสนรักอย่าง “แมว” ออกมาเที่ยวเล่นและเพลิดเพลินกับกิจกรรมกลางแจ้งในช่วงฤดูร้อนนอกบ้านอย่างอิสระเสรีจนถึงสิ้นเดือน ส.ค.นี้ รวมถึงระหว่างเดือน เม.ย.-ส.ค. ในอีก 3 ปี ซึ่งเป็นฤดูวางไข่ เพื่อหวังปกป้องไม่ให้ “นกจาบหัวหงอน” ที่ใกล้สูญพันธุ์ ต้องถูกแมวไล่ล่าจนสูญพันธุ์ โดยระบุว่าการอยู่รอดของนกสายพันธุ์นี้ขึ้นอยู่กับชีวิตของลูกนกทุกตัว

นอกจากนี้ หากเจ้าของไม่สามารถดูแลใกล้ชิดจนแมวเล็ดลอดออกไปเตร่อยู่นอกบ้าน จะต้องรีบรายงานต่อเจ้าหน้าที่และพยายามนำตัวกลับเข้าบ้านให้ได้ และอาจถูกปรับเป็นเงิน 500 ยูโร หรือประมาณ 18,000 บาท แต่หากแมวของตนทำให้ “นกจาบหัวหงอน” ที่อยู่ในพื้นที่ต้องบาดเจ็บหรือตาย ก็อาจต้องเตรียมเงินค่าปรับสูงถึง 50,000 ยูโร หรือ ราว 1,815,000 บาท ทำให้บรรดาสมาคมด้านสวัสดิภาพสัตว์ ออกมาคัดค้านคำสั่งดังกล่าว โดยให้เหตุผลว่าการห้ามไม่ให้แมวที่คุ้นเคยกับการออกไปข้างนอกอย่างกะทันหัน จะทำให้สัตว์เกิดความเครียดอย่างมาก ขณะที่ยังไม่มีการพิสูจน์อย่างชัดเจนว่า “แมว” คือสาเหตุสำคัญที่ทำให้นกดังกล่าวลดจำนวนลง และยังสนับสนุนให้ต่อสู้กับสาเหตุที่แท้จริง อย่างอิทธิพลของการเกษตรแบบเข้มข้น การปลูกพืชเชิงเดี่ยว การตายของแมลง และการพัฒนาที่ดินที่เพิ่มมากขึ้น ซึ่งล้วนเกิดจากน้ำมือมนุษย์มากกว่าจะโทษแมวที่ล่านก

ทั้งนี้ ในเขตไรน์-เน็คคาร์ “นกจาบหัวหงอน” จัดเป็นสัตว์ที่มีความเสี่ยงใกล้สูญพันธุ์สูงสุด เมื่อปีที่แล้วมีนกเหลือเพียง 3 คู่ ที่ผสมพันธุ์ในทางตอนใต้ของเมืองวอลล์ดอร์ฟ และโดยเฉพาะอย่างยิ่งนกชนิดนี้มักทำรังอยู่ในที่ลุ่มบนพื้นจึงมักตกเป็นเหยื่อของแมว ซึ่งก่อนหน้านี้เคยมีผลการศึกษาในปี 2556 ที่ประมาณการณ์ว่าแมวที่ถูกเลี้ยงแบบปล่อยอิสระในสหรัฐฯ เพียงแห่งเดียวสามารถ “ฆ่านก” ได้ราว 24,000 ล้านตัว รวมถึงสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมอื่นๆอีกราว 12,300 ล้านตัวต่อปี ส่วนแมวที่อังกฤษยังจับสัตว์อื่นได้มากถึง 100 ล้านตัวในช่วงฤดูใบไม้ผลิและฤดูร้อน ในจำนวนนี้ไล่ล่านกได้ถึง 27 ล้านตัว นกกระจอกใหญ่ นกติ๊ดสีน้ำเงิน นกแบล็กเบิร์ด และนกกิ้งโครง